วันศุกร์ที่ 9 สิงหาคม พ.ศ. 2556

ไม่แปลก!ทนายเสธ.แดงช่วย'เณรคำ' : สำราญ สมพงษ์รายงาน

ไม่แปลก!ทนายเสธ.แดงช่วย'เณรคำ' : สำราญ สมพงษ์รายงาน

             ทันทีที่พระฐกฤต กัณตธัมโม โฆษกประจำตัวนายวิรพล สุขผล หรือ อดีตพระเณรคำ เข้าให้การกับดีเอสไอเกี่ยวกับทรัพย์สินและการใช้ชีวิตหรูหราของเณรคำ ได้ปรากฏกายนายสุกิจ พูนศรีเกษม ในฐานะทนายความ ที่เปิดเผยตัวเองว่า เป็นอดีตทนายความของ พล.ต.ขัตติยะ สวัสดิผล หรือ เสธ.แดง ผู้ล่วงลับ

             "ตอนนี้ ได้รับการทาบทามให้เป็นทีมกฎหมาย และทนายความให้กับอดีตเณรคำ เบื้องต้นยังไม่ได้กำหนดแนวทางการต่อสู้คดีที่ชัดเจน แต่เตรียมที่จะยื่นให้ศาลของประเทศสหรัฐฯ ไต่สวนการออกหมายจับของดีเอสไอว่า ชอบด้วยกฎหมายหรือไม่ เพราะเป็นการออกหมายจับในคดีที่เหตุเกิดขึ้น นานกว่า 10 ปี" อดีตทนายเสธ.แดงระบุ

             หากดูประวัติของนายสุกิจแล้วไม่ธรรมดามีสำนักงานกฎหมายเป็นของตัวเองเปิดเว็บไซต์ชื่อ sukit-lawyer.com ซึ่งมีเนื้อหาเกียวกับประวัติของนายสุกิจอย่างละเอียดโดยเริ่มจาก การศึกษาจบปริญญานิติศาสตร์มหาบัณฑิต  มหาวิทยาลัยรามคำแหงรุ่นที่ 9 ปริญญารัฐประศาสนศาสตร์มหาบัณฑิต สาขาวิชารัฐประศาสนศาสตร์ มหาวิทยาลัยณิวัฒนา ปริญญาเอกด้านรัฐประศาสนศาสตร์ มหาวิทยาลัยเกริก

             ประวัติการทำงานด้านกฎหมายเช่น เป็นทนายฟ้อง พล.ต.ต.พีระพันธุ์  เปรมภูติ เลขาป.ป.ง. ในความผิดฐานยึดและอายัดทรัพย์สินโดยมิชอบ ศาลสั่งให้คืนทรัพย์สินทั้งหมด เป็นทนายความแก้ต่างให้กับ พล.ต.อ.สล้าง บุนนาค เกี่ยวกับทรัพย์สิน และเป็นทนายฟ้องและแก้ต่างให้กับ น.พ.วิชัย ชัยจิตวณิชกุล คดีรถยนต์ ปาเจโร่

             มีตำแหน่งทางการเมืองเช่น ได้รับแต่งตั้งเป็นนักวิชาการประจำคณะกรรมาธิการการศาสนาและศิลปวัฒนธรรมสภาผู้แทนราษฎร ปี 2545 ได้รับแต่งตั้งเป็นที่ปรึกษากรรมาธิการการศาสนาและศิลปวัฒนธรรม สภาผู้แทนราษฎร ปี2546 ได้รับแต่งตั้งเป็นผู้ชำนาญการประจำคณะกรรมาธิการการศาสนาและศิลปวัฒนธรรม ลงสมัครส.ว.กทม.ปี 2549
             มีผลงานด้านวิชาการเช่น จัดรายการตอบปัญหาทางกฎหมายบริการประชาชนทุกวันเสาร์ เวลา 17.00 – 17.30 น. ที่สถานีโทรทัศน์  TNN 24 (ทรูช่อง 24)

             อย่างไรก็ตามผู้ใช้นามว่า "เสน่ห์โจรสลัด" ได้เขียนบทความเกี่ยวกับนายสุกิจให้ชื่อเรื่องว่า  "ทนายมาเฟีย-ทนายเทวดากับหนังสือย้อนรอยกรรม ระลึกชาติ สื่อวิญญาณ" ที่เผยแพร่ทางอินเตอร์เน็ตโดยสรุปว่า "ทนายมาเฟีย" และ "ทนายเทวดา" เป็นฉายาของ "นายสุกิจยตน์ พูนศรีเกษม" ผู้ชำนาญการประจำคณะกรรมาธิการ การศาสนาและศิลปวัฒนธรรม สภาผู้แทนราษฎร

             สำหรับที่มาของฉายา ทนายเทวดา นั้น ทนายสุกิจยตน์ บอกว่า พล.ต.ขัตติยะ สวัสดิผล หรือ เสธ.แดง เป็นคนตั้งให้ เพราะไปช่วยวัด 3 แห่ง ว่าความฟ้องร้องกรรมการวัด จนได้เงินกลับคืนวัดหลายสิบล้านบาท โดยปัจจุบันนี้เป็นนิติกรประจำวัด 3 แห่ง คือ วัดกัลยาณมิตรวรมหาวิหาร เขตธนบุรี กรุงเทพฯ วัดจุฑาทิศธรรมสภาราม อ.เกาะสีชัง จ.ชลบุรี และวัดถ้ำเขาชะอางค์โอน อ.บ่อทอง จ.ชลบุรี

             ส่วนที่มาของฉายา ทนายมาเฟีย นั้น ทนายสุกิจยตน์ บอกว่า ได้มาเพราะไปเป็นทนายแก้ต่างและฟ้องให้กับบุคคลที่มีชื่อเสียงเป็นจำนวนมาก  และยังเป็นทนายให้แก่พล.ต.ขัตติยะ สวัสดิผล หรือ เสธ.แดง กรณี พล.ต.อ.สันต์ ศรุตานนท์ ฟ้อง เสธ.แดงกับพวก เรียกค่าเสียหาย 2,500 ล้านบาท ศาลแพ่งกรุงเทพใต้ยกฟ้อง"
             ทำให้เกิดคำถามสงสัยตามมาว่าอดีตทนายความเสธ.แดงคนนี้เกี่ยวกับ "เณรคำ" ได้อย่างไร
             หากจะพิจารณากลุ่มคนที่เกี่ยวข้องกับ "เณรคำ" ตั้งแต่เกิดเรื่องมา ไม่ว่าจะเป็นคนในสมาคมวิชาชีพผู้สื่อข่าวแห่งประเทศไทย ที่มีสำนักงานอยู่แถว ต.บางเสาธง อ.บางใหญ่ จ.นนทบุรี ซึ่งใช้เป็นสถานที่แถลงข่าวป้อง "เณรคำ" แต่ในวงการสื่อทั่วไปแล้วรู้ดีว่าสมาคมวิชาชีพผู้สื่อข่าวแห่งประเทศไทยเป็นกลุ่มคนกลุ่มไหน เช่นเดียวกับกลุ่มคนที่จังหวัดสุรินทร์และอาจารย์กลุ่มเดียวกันนี้ก็ได้ออกมาปกป้องตลอด และเรียกร้องให้มีการตรวจสอบไม่ใช่เฉพาะ "เณรคำ" เท่านั้น
             ดังนั้นเมื่อพิจารณาข้อมูลเกี่ยวกับประวัติของนายสุกิจและกลุ่มคนต่างๆที่เกี่ยวข้องกับ "เณรคำ" หลังจากเกิดเรื่อง จึงไม่ใช่เรื่องแปลกที่ทำไมนายสุกิจถึงยื่นมือเข้ามาช่วย "เณรคำ"

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น